แพทย์แนะ 8 วิธี ดูแลสุขภาพ"หู"
อวัยวะส่วนหนึ่งที่อยู่ในประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งมีความสำคัญต่อร่างกายมากนั่นคือ "หู" โดย "หู" จะช่วยทำหน้าที่รับฟังเสียงต่างๆจากภายนอกผ่านแก้วหูเข้าสู่ หูชั้นกลาง และหูชั้นใน ทำให้เราได้ยินเสียงรอบข้าง เราจึงควรระมัดระวังดูแลรักษาหู เพื่อใช้หูอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อหูเกิดความผิดปกติ ไม่ควรละเลยจากการรักษา ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาทันที เพราะอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงในอนาคตได้
นายแพทย์พิสิฏฐ์ สุอาชาวรัตน์ แพทย์ผู้เชื่ยวชาญเฉพาะทางหู คอ จมูก อาร์เอสยู เฮลท์แคร์ คลินิก จากมหาวิทยาลัยรังสิต ได้แนะนำ 8 วิธี ดูแลสุขภาพ"หู" อย่างง่ายๆไว้ดังนี้
1. ดูแลทำความสะอาด โดยเช็ดใบหู รูหู ห้ามแคะหู และห้ามปั่นในรูหูเด็ดขาด
2. ถ้ามีน้ำเข้าหู ให้เอียงหูข้างนั้นลง และทำความสะอาดด้วยไม้ปั่นหู (cotton bud) เพื่อซับน้ำให้แห้ง
3. โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้ว ร่างกายคนเราจะผลิตขี้หูออกมาตามความเหมาะสม อาจจะเปียกหรือแห้งต่างกันไป ในกรณีที่มีขี้หูเปียกมากควรเช็ดทำความสะอาดด้วยไม้ปั้นหูที่มีขนาดเล็กกว่ารูหู เช็ดหรือปั่นเบา ๆ เพื่อเอาขี้หูออกสัปดาห์ละครั้ง
ส่วนในกรณีที่ขี้หูแห้งและแข็ง ควรหยอดหูด้วยน้ำมันมะกอกครั้งละ 1-2 หยด หยอดบ่อย ๆ ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นค่อยทำความสะอาด ไม่ควรแคะหูด้วยที่แคะหูหรือกิ๊บเสียบผม เพราะอาจทำให้แก้วหูทะลุ ผนังรูหูเป็นแผลและอักเสบติดเชื้อโรคได้
4. เมื่อเกิดเหตุแมลงเข้าหู ให้ใช้น้ำมันมะกอกหยอดให้เต็มรูหู ทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้แมลงตาย จึงค่อยเขี่ยเอาแมลงออก ถ้ายังไม่สามารถเขี่ยแมลงออกได้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที
5. กรณีเป็นหวัด คัดจมูกมาก ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรงๆ เพราะอาจจะทำให้เชื้อโรคถูกดันให้เข้าไปในท่อยูสเตเชี่ยน (ท่อยูสเตเชี่ยน:ท่อที่เชื่อมต่อระหว่าง หูชั้นกลาง และโพรงหลังจมูก ทำหน้าที่ช่วยปรับความดันของหูชั้นกลางให้เท่ากับบรรยากาศภายนอก) ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อบริเวณหูชั้นกลาง และลุกลามจนกลายเป็นโรคหูน้ำหนวกได้
6. ควรหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุหรือการกระทบกระแทกแรงๆ ที่กกหู เพราะอาจทำให้แก้วหูฉีกขาด, เลือดคั่งในหูชั้นกลาง และกระดูกหูอาจเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม ทำให้ความสามารถในการได้ยินลดลง
7. ควรหลีกเลี่ยงแหล่งที่มีเสียงดังอึกทึก เช่น เครื่องจักรในโรงงาน เสียงดนตรีในสถานบันเทิง ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใส่ที่ครอบหูหรือที่อุดหู และติดตามตรวจการได้ยินทุกปี
8. สังเกตอาการผิดปกติของหุ และการได้ยินอยู่เสมอ เช่น หูอื้อ ปวดหู คันหู มีน้ำหนองหรือเลือดไหลออกจากหู การฟังเสียงลดลง ควรรับการตรวจจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
สำหรับวัยรุ่นทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการใช้หูฟังเป็นเวลานานๆ และลดการเปิดเสียงดังมากจนเกินไป นอกจากนี้่ควรอยู่ห่างจากพื้นที่ที่มีเสียงดังมาก เช่น ร้านสถานที่บันเทิง พื้นที่โรงงาน ซึ่งอาจทำให้เป็นอันตรายต่อหู แม้แต่การใช้โทรศัพท์มือถือก็อาจเสี่ยงต่อการทำให้แก้วหูอักเสบได้
เรื่องของ "หู" อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ทว่าไม่ใส่ใจดูแลก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก หนังสือพิมพ์รังสิต
เรียบเรียงโดย : ถ่านเครื่องช่วยฟัง.com
หน้าที่เข้าชม | 109,786 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 62,581 ครั้ง |
เปิดร้าน | 28 ม.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 12 ก.ย. 2568 |